ไม่มีวันปฏิเสธได้ว่า สนามมวยดัง ที่เป็นที่นิยมมากนี้เป็นจุดหมายประสงค์ของคนทั่วโลกที่หลงใหลในความมันส์ของมวยไทย ไม่เพียงแค่การต่อสู้ด้วยกำปั้นที่มีความสามารถเอื้ออำนวยอย่างมาก มวยไทยยังเป็นกีฬาที่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยอย่างลงตัวด้วย
ในปัจจุบันนี้ความนิยมของมวยไทยกำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากความหลากหลายที่มีในกีฬานี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่มีอายุเล็กหรือมีอายุมาก พวกเขาก็ได้มีการสนใจที่เพิ่มขึ้นในการศึกษาและการฝึกซ้อมในมวยไทย เรียนรู้และปรับปรุงตนเองในทุกๆ ด้านของกีฬานี้ผ่าน สนามมวยดัง
มวยไทยไม่เพียงแค่เป็นกีฬาเดียว แต่มันยังเป็นหนึ่งในหน้าที่ให้ผู้คนสามารถท่องเที่ยวและพบสัมผัสกับวัฒนธรรมไทยอย่างใกล้ชิด มากกว่าเพียงการดูการแข่งขัน เสียงเชียร์ที่ดังอยู่ที่สนามก็สร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและที่ไม่เหมือนใครสำหรับผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชม
รับชมมวยไทย ผ่านสนามมวยดัง
พร้อมที่จะสร้างความสนุกสนานและร่าเริงให้กับทุกคนในกลางบรรยากาศของกองเชียร์และการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความเป็นมือศิลปะป้องกัน เราเห็นเหมือนว่ามีผู้คนบางส่วนที่เป็นแฟนคลับของมวยไทย ในขณะที่อีกคนบางคนมาเชียร์สนามมวยกับนักมวยต่างชาติที่มาแข่งขันที่นี่ และบางคนอาจจะอินทุกข์กับมวยไทยจนถึงขั้นที่เข้าร่วมการเรียนศาสตร์ของมวยไทยเพื่อเรียนรู้และเข้าใจเพิ่มเติม มวย 2000 เหตุผลที่ชาวต่างชาตินำเสนอคำถามเหล่านี้มากมายนั้น อาจเป็นเพราะพวกเขาสนใจที่จะมาสัมผัสประสบการณ์การดูมวยไทยในเวทีมวยของเมืองไทย
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความต้องการของชาวต่างชาติที่อยากเข้าร่วมกิจกรรมมวยไทยในกรุงเทพฯ เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสนามมวยดัง ชื่อดังที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ว่ามีสถานที่ในการชมการ ผลมวย แข่งขันมวยไทยอย่างไรบ้าง
ลักษณะ เวทีมวย ที่ได้มาตรฐาน
- ลักษณะของเวทีมวยที่มีมาตรฐานคือต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็ก ๆ ด้านละ 20 ฟุต (10 เมตร) และด้านละ 24 ฟุต (7.30 เมตร) โดยการวัดจากด้านในของเชือก เพื่อให้เกิดพื้นที่เพียงพอสำหรับการแข่งขัน ส่วนพื้นเวทีต้องสูงจากพื้นอย่างน้อย 3 ฟุต แต่ไม่เกิน 4 ฟุตเพื่อให้นักมวยสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและสะดวกสบาย
- เชือกกั้นต้องประกอบด้วยทั้งหมด 4 เชือก และมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 1½ นิ้ว ซึ่งจะถูกขึงจากพื้นเวทีตามลำดับที่เป็นการเชื่อมต่อ 16, 32, 48 และ 60 นิ้ว ตัวเชือกจะต้องได้รับการหุ้มด้วยวัสดุที่อ่อนนุ่มและเรียบ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ และมุมด้านในของเชือกจะต้องได้รับการหุ้มด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ เพื่อให้เกิดความเงียบและเพื่อป้องกันความเสียหายของเชือก
- พื้นเวทีต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยและไม่มีสิ่งกีดขวาง โดยจะต้องยื่นออกไปนอกเส้นเชือกอย่างน้อย 20 นิ้ว และควรจะหุ้มด้วยวัสดุเสริมที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการลื่นหรือบาดเจ็บ พื้นเวทียังต้องมีความยืดหยุ่นและความหนาไม่น้อยกว่า 1½ นิ้ว โดยต้องมีการคลุมพื้นเวทีทั้งหมดด้วยผ้าเนื้อแน่น
- มุมของเวทีจะต้องมีเสาทั้งสี่ และต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 นิ้ว สูงจากพื้นเวที 60 นิ้ว มุมที่เชื่อมกับเชือกยังจะต้องได้รับการหุ้มด้วยวัสดุเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ โดยมุมแดงจะอยู่ใกล้กับผู้ควบคุมการแข่งขันหรือคณะกรรมการตัดสิน
- เวทีจะต้องมีบันไดที่ปลอดภัย โดยจะต้องมีขั้นบันไดจำนวน 3 ขั้น และมุมบันไดจะต้องกว้างอย่างน้อย 3 ฟุต เพื่อให้นักมวยและครูฝึกสามารถขึ้นและลงได้สะดวก บันไดหนึ่งขั้นอาจจะตั้งอยู่ที่มุมกลางสำหรับผู้ตัดสินและแพทย์
- เพื่อให้มีความสะดวกสบายในการแข่งขันและตรวจสอบสถานการณ์ จะต้องมีกล่องพลาสติกอยู่ที่มุมทั้งสองของเวที ซึ่งจะใช้ในการทิ้งสำลีหรือกระดาษเพื่อเช็ดเลือด
นอกเหนือจากประเทศไทยแล้ว ยังมีประเทศอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น ที่มี สนามมวย ที่มีมาตรฐาน เช่น นิปปงบุโดกัง และโคระกุเอ็งฮอล รวมถึงสนาม เมดิสันสแควร์การ์เดน ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเวทีที่ได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐานและสามารถใช้จัดการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่มีปัญหาใด ๆ
5 เวทีมวยดังสุดในไทย [สายมวยห้ามพลาด]
ในประเทศไทยวันนี้ เวทีมวย เป็นสิ่งที่คุ้นเคยและมีอยู่ทั่วทุกมุม แต่ถ้าเราพูดถึงประวัติความเป็นมาและความนิยม สามารถจะสรุปได้ว่ามี 5 สนามมวยอันดับต้น ๆ ที่เราจะมาแนะนำในบทความนี้ เหล่าสนามเหล่านี้เป็นสถานที่ที่ผู้ชมจำนวนมากไปติดตามกัน ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก ดังนั้น เรามาดูว่าสนามมวยที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง?
สนามมวยราชดำเนิน
สนามมวยราชดำเนิน เป็นหนึ่งในสนามมวยมาตรฐานที่สำคัญของประเทศไทย สร้างขึ้นโดยพลเรือเอก ป. พิบูลสงคราม โดยงานก่อสร้างได้เริ่มต้นก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และเสร็จสมบูรณ์หลังจากสงครามสิ้นสุด เปิดให้ใช้สนามเวทีการแข่งขันครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2488 ในช่วงแรกของการใช้งาน
สนามมวยราชดำเนินยังไม่มีหลังคาป้องกัน นับเป็นสถานที่การแข่งขันมวยที่มีมาตรฐานและความสำคัญที่สุดในประเทศไทย นักกีฬาและผู้ชมจากทั่วทุกมุมโลกมักมาร่วมสนุกกันที่สนามนี้ เรียกได้ว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ของโลกในทุกด้าน
สนามมวยลุมพินี
สนามมวยลุมพินี เป็นหนึ่งในสนามมวยมาตรฐานที่สำคัญของประเทศไทย ตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียนเตรียมทหาร (เดิม) และปัจจุบันได้ถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ของศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก สนามนี้ได้เริ่มก่อตั้งครั้งแรกในปีพุทธศักราช 2499 โดยจัดตั้งขึ้นโดยพลตรี ประภาส จารุเสถียร เบื้องต้นการแข่งขันมวยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 15 มีนาคม และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ธันวาคม เป็นสนามมวยที่มีประวัติความเป็นมายาวนานและเป็นที่จัดการแข่งขันนัดสำคัญหลากหลายรายการ รวมถึงการชิงแชมป์โลกครั้งแรกของ โผน กิ่งเพชร และ ปาสคาล เปเรซ รวมถึงรายการอื่น ๆ อีกมากมาย ในภายหลัง
สนามมวยลุมพินี ได้ถูกย้ายไปยังศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก ที่อยู่บริเวณถนนรามอินทรา และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 สนามมวยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างโอกาสอาชีพให้กับนักมวยไทยและนักมวยสากล พร้อมกับการสร้างนักมวยแชมป์โลกเพื่อเป็นสวัสดิการของกำลังพล เนื่องจากการดำเนินกิจการนี้เกี่ยวข้องกับกองทัพบก สนามมวยลุมพินีเคยมีค่าผ่านทางสูงถึง 3 ล้านบาท และเคยมีผู้ชมมากกว่า 10,000 คนร่วมเข้ารับชมการแข่งขันในหน้าสนามนี้
สนามมวยสยามอ้อมน้อย
สนามมวยสยามอ้อมน้อย เป็นสนามมวยที่ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกบนถนนเพชรเกษม ในอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร หลังจากได้รับการพิจารณาและเช็คว่าการก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานและเข้ากับข้อกำหนดที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่สนามมวยจังหวัดละหนึ่งสนามเท่านั้น ดังนั้นในแรกๆ คนส่วนใหญ่เคยเรียกว่า “เวทีสนามมวย” แต่ทว่าคำว่า “สนามมวย(อ้อมน้อย)” ก็ได้รับความนิยมจากคนทั่วไปเช่นกัน
สนามมวยสยามอ้อมน้อย มีความสามารถในการรองรับผู้ชมได้ประมาณ 3,000-5,000 คน ออกแบบสนามมวยด้วยแนวคิดที่คล้ายกับสตูดิโอที่ใช้ในการถ่ายทำรายการทีวี ซึ่งเหตุผลนี้ทำให้ผู้ชมมวยสามารถเข้าร่วมชมการแข่งขันได้ในแบบใกล้ชิด สนามมวยสยามอ้อมน้อยยังเป็นที่จัดการแข่งขันรายการมวยที่มีชื่อเสียงอีกหลายรายการ เช่น ศึกยอดมวยแดง ที่ได้ถูกย้ายมาจากสนามสำโรงมาที่นี่เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2530 และในงานเปิดที่นั้น นายกรัฐมนตรีเก่า พลเอก เชาวลิต ยงใจยุทธได้ร่วมงานเปิดเสมือนปรากฏการณ์ของสนามมวยสยามอ้อมน้อย
สนามมวยสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
รายการ “มวยไทย 7 สี” ที่ถ่ายทอดสดบนสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เป็นหนึ่งในรายการที่เป็นที่นิยมมากที่สุดและมีความนำชื่อของประเทศไทย เป็นที่กำเนิดของมวยตู้และเป็นที่มาร่วมกันกับเวทีมวยช่อง 7 สี ซึ่งมีชื่อเสียงและรู้จักในระดับกว้างขวาง รายการถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD ในทุกวันอาทิตย์ เวลา 14.30-16.30 น. นอกจากนี้ยังสามารถรับชมผ่านทางเว็บไซต์ได้อีกด้วย เวทีมวยนี้มีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมกีฬามวยไทยและอนุรักษ์ศิลปะมวยไทย บางช่วงเวลาของการถ่ายทอดสดยังมีการประกาศข้อความบนหน้าจอด้วย
รายการนี้เริ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2555 เป็นรายการแข่งขันที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนแต่ได้ใช้วิธีการบรรยายในแถบข่าววิ่งเพื่อขอบคุณในเวลาที่คู่มวยหลักขาดการแข่งขัน ในวงการมวย มีชื่อเสียงว่าเป็นการแข่งขันที่มีการตัดสินอย่างธรรมและน้อยในเรื่องของการตัดสินที่ผิดพลาด ได้รับความนิยมอย่างมากจากผู้ชม นอกจากนี้ยังเป็นคู่มวยทางโทรทัศน์ที่ได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 25 ในปี พ.ศ. 2553 รวมถึงรางวัลผู้บรรยายรายการกีฬาดีเด่น เป็นรายการเก่าแก่ที่ได้รับความสนใจจากแฟนมวยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และเป็นสถานที่ที่ผู้ชมมวยสามารถเข้าชมการแข่งขันได้อย่างใกล้ชิด
เวทีมวยรังสิต
สนามมวยรังสิต ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2505 โดยคุณประสิทธิ์ ไอไรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีในเวลานั้นเพื่อส่งเสริมและอนุรักษ์กีฬามวยไทย แม้จะมีนักมวยในพื้นที่น้อยในช่วงนั้น แต่มีแนวคิดที่ตั้งใจจะสร้างการแข่งขันมวยและเช่าสนามเพื่อจัดกิจกรรมนี้ นักมวยจากที่อื่นก็ถูกนำมาแข่งขันด้วย การแข่งขันครั้งแรกได้รับรายได้ 6,400 บาท จากทุนไม่ถึง 3,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่มีค่าในสมัยนั้นมาก
ต่อมาไม่นานหลังจากนั้นมีการจัดการแข่งขันต่อเนื่อง ในปี พ.ศ. 2505 นายอำนวย เกตุบำรุง ได้ซื้อสนามมวยในราคา 20,000 บาท เพื่อปรับปรุงและจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง สนามมวยนี้ได้รับการดูแลและบริหารจัดการโดยคุณอำนวย เกตุบำรุง และในปี 2560 มีการจัดการแข่งขันมวยเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยแข่งขันสัปดาห์ละ 3 ครั้ง รวมถึงรายการมวยมันวันศุกร์และมวยไทย ททบ.5 นอกจากนี้ยังมี โปรแกรมการแข่งขันมวยไทย มากกว่า 2,300 รายการ และให้โอกาสให้เยาวชนได้ฝึกฝนความแข็งแกร่ง ทดสอบฝีมือ โดยจัดโปรแกรมการแข่งขันทุกบ่ายวันเสาร์และอาทิตย์

สรวิชญ์ ธนพัฒน์ปัญญาพนต์ (Editor in Chief of UFABET) ดำรงตำแหน่งหน้าที่บรรณาธิการ UFABET ทำหน้าที่ดูแลข้อมูลและเป็นผู้จัดการในด้านการตลาดทั้งหมดของบริษัททั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ